DNA Booster

Mask Group 10

รักษาหลุมสิวให้ตื้นเร็ว พร้อมผิวใสกับ DNA Booster

DNA Booster คือกระบวนการเติมสารที่จำเป็นต่อการซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลผิว อันได้แก่ Vitamin, Growth Factors, PDRN และ Hyaluronic acid (HA)

ทั้งนี้ DNA (deoxyribonucleic acid) ซึ่งเป็นสารพันธุกรรม ที่ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต และมีหน้าที่สำคัญ ๒ ประการ คือ 1. การถ่ายทอดข้อมูลของสิ่งมีชีวิต และ 2. การจำลองตัวเอง (DNA replication) ซึ่งเกิดในกระบวนการแบ่งเซลล์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า Polydeoxyribonucleotide หรือเรียกย่อ ๆว่า PDRN เป็นสารที่เป็นองค์ประกอบในการสร้าง DNA  ถ้าฉีดสาร PDRN เข้าไปในผิว มันจะไปช่วยสร้าง DNA และทำให้เกิดการซ่อมแซมและสร้างเซลใหม่ขึ้นมานั่นเอง สำหรับ Hyaluronic acid หรือ HA หลายๆคนรู้จักในลักษณะของสารเติมเต็ม หรือ Filler HA ซึ่งเป็น HA ชนิดที่มีการพันเกี่ยวโครงสร้างโมเลกุลที่เรียกว่า Cross-link เพื่อให้คงรูปเป็นโครงสร้างใต้ผิวได้นาน แต่การรักษาผิวด้วยเทคนิค DNA Booster นั้นเราใช้ HA ชนิดที่ไม่มีการเกี่ยวพันโครงสร้างโมเลกุล เพราะต้องการให้ HA กระจายตัวในผิวอย่างรวดเร็ว ซึ่ง HA นั้นนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในผิวหนังซึ่งเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงผิวแล้ว ตัว HA ยังเป็นตัวกลางที่ช่วยนำพาออกซิเจน และสารบำรุงต่าง ๆรวมถึง PDRN เข้าสู่เซลผิวหนังอย่างทั่วถึงด้วย ทำให้เซลผิวหนังสามารถซ่อมแซม ฟื้นฟู สร้างเซลผิวใหม่ เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว ผิวหนาตัวขึ้น ทำให้ริ้วรอย-แผลเป็นหลุมสิวลดลง และรอยดำฝ้ากระจางลง

รูปแสดงผิวที่หนาตัวขึ้นหลังรักษาด้วย DNA Booster

ขั้นตอนการรักษา

ลังจากทายาชาทั่วหน้าประมาณ 30 นาที ใช้เข็มขนาดเล็กฉีดตัวยา DNA Booster เข้าที่ผิวชั้นบน โดยเน้นฉีดตื้นๆให้ทั่วผิวชั้นบนของใบหน้า จากนั้นนวดหน้าต่อด้วยเครื่องนวดเย็นลบ 10องศา เพื่อผลักวิตามินส่วนที่เหลือ และช่วยลดอาการบวมแดงของผิวชั้นบน

image 28

การปฏิบัติตัวหลังการรักษา

หลังการรักษาจะเห็นผิวหน้าเป็นตุ่มๆคล้ายยุงกัด ซึ่งจะค่อยๆหายไปภายใน 48 ชั่วโมง และรอยเข็มเป็นจุดแดงๆ บางรายอาจพบมีหน้าบวมเล็กน้อยซึ่งจะค่อยๆยุบลงเป็นปกติภายใน 3-5 วัน ควรงดออกกำลังกาย 2-3 วัน สามารถทำกิจกรรมประจำวันอื่น ๆได้ตามปกติ และไม่ต้องหลบแดด

image 29

ประโยชน์ที่จะได้รับ

DNA booster ใช้ในการรักษาผิวหน้าได้หลายหลายรูปแบบ โดยแพทย์จะปรับสัดส่วนตัวยาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวที่ต้องการรักษา เช่น การแก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ของผิวชั้นบน แก้ปัญหาผิวบางเห็นเส้นเลือดฝอยในผู้ที่เคยทำเลเซอร์บ่อย แก้ปัญหาฝ้ารอยดำ และการแก้แผลเป็นหลุมสิว ในกรณีรักษาหลุมสิวควรรักษาหลังจากการแก้ปัญหาพังผืดด้วย Air Dissection ก่อนสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้พังผืดลดลง และตัวยา DNA Booster กระจายตัวเข้าผิวได้ดีขึ้น  โดยปกติหลังการรักษา 7-10 วันผิวหน้าจะดูสดใส ริ้วรอยลดลง หน้าดูขาววาวใสขึ้น แผลเป็นหลุมสิวดูเรียบเนียนขึ้น ในช่วง 2-3 ครั้งแรกแนะนำให้รักษาซ้ำทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ จากนั้นเว้นระยะเป็นทุก ๆ 1-2 เดือน ผิวจะค่อยๆหนาตัวขึ้น รอยดำ-รอยแดงเส้นเลือดลดลง หลุมสิวตื้นขึ้น เป็นต้น

image 30

วิดีโอรีวิว